บริษัทจัดหาเงินทุนระยะยาวของธุรกิจ
เงินทุนระยะยาว
เงินทุนที่มีระยะเวลาก่อประโยชน์ให้แก่กิจการให้นานกว่า 1ปี
เพื่อนำเงินมาลงทุนในกิจการหรือขยายกิจการ
ตลาดการเงิน(Financial Market)
หมายถึง
ตลาดที่อำนวยความสะดวกในการโอนหรือการเปลี่ยนมือในสินทรัพย์ทางการเงินจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง
หรือจากหน่วยเศรษฐกิจที่มีเงินออมไปสู่หน่วยเศรษฐกิจที่ต้องการเงินออม
โดยสินทรัพย์ทางการเงินดังกล่าวออกโดยหน่วยธุรกิจ สถาบันการเงิน รัฐบาล
ประกอบไปด้วย
-ตลาดเงิน(Money
Market) ซื้อขายหลักทรัพย์อายุครบกำหนดไม่เกิน
1 ปี หรือ จัดหาเงินทุนในระยะสั้น
-ตลาดทุน(Capital
Market) อายุมากกว่า
1 ปี หรือ จัดหาเงินทุนระยะยาว
บทบาทและหน้าที่ของตลาดการเงิน
1. ทำให้ผู้ออมได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยและอื่นๆ
2.
ทำให้ผู้ลงทุนมีเงินทุนนำไปใช้ในโครงการต่างๆโดยตลาดเงินจะมีบทบาทและหน้าที่ในการสนับสนุนการระดมทุนให้กับหน่วยธุรกิจ
3.
ทำให้ผู้บริโภคมีมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น
4.
ทำให้ระบบเศรษฐกิจมีการสะสมทุนของประเทศเพิ่มขึ้น
5.
ทำให้เกิดความเจริญทางเศรษฐกิจใช้เป็นเครื่องมือของภาครัฐในการ บริหารจัดการภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนประกอบของตลาดการเงิน
ตลาดการเงินมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการ คือ
1. ผู้มีเงินออม
1.1 เงินออมจากภาคเอกชน คือ การออมของบุคคลทั่วๆไป และหน่วยธุรกิจเอกชน
1.2 เงินออมจากภาครัฐบาล คือ
เงินที่เกิดจากรายได้ของภาค รัฐบาลที่สูงกว่ารายจ่ายในปีงบประมาณหนึ่งๆ
ถือว่าเป็นเงินออมที่นำส่งคลัง เรียกว่า เงินคงคลัง
1.3 เงินออมจากต่างประเทศ คือ
การระดมเงินจากต่างประเทศทำได้โดยการกู้ยืมจากต่างประเทศ
2. ผู้ต้องการเงินทุน ได้แก่
2.1 การกู้ยืมภาคเอกชน ได้แก่ การกู้ยืมของบุคคลทั่วไปและธุรกิจภาคเอกชน
ทั้งเพื่อการใช้จ่ายในการอุปโภค บริโภค และการลงทุนประกอบธุรกิจ
2.2 การกู้ยืมภาครัฐบาล เช่น
การกู้ยืมของรัฐบาลเพื่อการสร้างโครงสร้างทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน(Infrastructure) ได้แก่ ถนน ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น
2.3
การกู้ยืมจากต่างประเทศ ถ้าการระดมเงินออมภายในประเทศไม่เพียงพอ
ก็ต้องมีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลในรูปแบบต่างๆกัน
3.สินทรัพ ย์ทางการเงิน(Financial
Assets) จำแนกออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
3.1 สินทรัพย์ทางการเงินที่ออกโดยภาคเอกชน ที่สำคัญได้แก่
3.1.1ตั๋วแลกเงิน(Bill of Exchange : B/E) คือ หนังสือตราสารที่ผู้สั่งจ่าย(Drawer)
สั่งผู้จ่าย(Drawee)
ให้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่งหรือให้จ่ายเงินตามคำสั่งของผู้รับเงินในอนาคตที่ได้กำหนดไว้หน้าตั๋ว
3.1.2ตั๋วสัญญาใช้เงิน(Promissory Note : P/N) คือ
หนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการชำระเงินให้แก่ผู้ถือหรือผู้รับที่มีชื่อระบุอยู่บนตั๋ว
3.1.3 เช็ค(Cheque) คือ
ตั๋วเงินที่แสดงคำสั่งที่เป็นรายลักษณ์อักษรของเจ้าของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันอยู่ที่ธนาคารพาณิชย์
สั่งให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินในจำนวนที่ได้ระบุไว้ในเช็คแก่ผู้ที่ถือเช็ค
3.1.4บัตรเงินฝาก(Negotiable
Certificate of Deposit)เป็นตราสารที่สถาบันการเงินออกให้ผู้ฝากเงินไว้เป็นหลักฐาน
3.1.5ตราสารที่ธนาคารรับรอง(Bankers’ Acceptance)เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่อยู่ในรูปของตั๋วแลกเงิน(Bill of
Exchange)ที่ธนาคารรับรองว่าจะจ่ายเงินให้ตามคำสั่งของผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงิน
การที่ธนาคารรับรอง(accept)หมายถึง
การรับรองของธนาคารในการจ่ายเงินให้กับตั๋วที่ครบกำหนด
3.1.6ตราสารหนี้ภาคเอกชนหรือหุ้นกู้(Corporate
Bond : Debentures)คือ สินทรัพย์ทางการเงินที่ออกโดยธุรกิจ
เพื่อระดมทุนในทางกฎหมาย ได้มีการให้คำจำกัดความว่า หุ้นกู้ คือ ตราสารแห่งหนี้
ไม่ว่าจะเรียกชื่อใดที่แบ่งเป็นหน่วยแต่ละหน่วย
มีมูลค่าเท่ากันและกำหนดประโยชน์ตอบแทนไว้เป็นการล่วงหน้าในอัตราเท่ากันทุกหน่วย
3.1.7หุ้นสามัญ(Common Stock)เป็นตราสารที่ผู้ถือมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการ
ตามสัดส่วนที่ถืออยู่ ต้องรับภาระความเสี่ยงจากผลการดำเนินงาน
มีสิทธิในการควบคุมการดำเนินงาน โดยออกเสียงเลือกกรรมการบริหารบริษัท
3.1.8หน่วยลงทุน(Unit Trust)เป็นตราสารแสดงสิทธิในทรัพย์สินของกองทุน
ซึ่งออกโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน
3.1.9หุ้นบุริมสิทธิ(Preferred Stock)คือ
สินทรัพย์ทางการเงินที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราตายตัว
หุ้นบุริมสิทธิไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
3.1.10ใบสำคัญแสดงสิทธิ(Warrant)เป็นตราสารที่ระบุว่าผู้ถือครองจะได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ
หุ้นบุริมสิทธิ
3.1.11หุ้นกู้แปลงสภาพ(Convertible Debentures)หมายถึง
ตราสารประเภทหุ้นกู้ที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ตามราคาที่ระบุและตามระยะเวลาที่กำหนด
อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างหุ้นกู้แปลงสภาพกับหุ้นสามัญสามารถกำหนดได้ในรูปของราคาแปลงสภาพหรืออัตราแปลงสภาพ
3.2 สินทรัพย์ทางการเงินที่ออกโดยรัฐบาลที่สำคัญ
ได้แก่
3.2.1 พันธบัตรรัฐบาล (government
bond) เป็นตราสารที่รัฐบาลออกเพื่อกู้ยืมในตลาดการเงิน
โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ประกันการจำหน่ายแต่ผู้เดียว
3.2.2 พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ
(state enterprise bond)
เป็นตราสารที่รัฐวิสาหกิจออกมาระดมทุนในประเทศแทนการกู้เงินจากต่างประเทศมีทั้งที่รัฐบาลค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน
อายุตั้งแต่ 3-10 ปี
3.2.3 ตั๋วเงินคลัง (treasury
bills) คือ สินทรัพย์ทางการเงินที่มีอายุในการไถ่ถอนน้อยกว่า 1
ปี โดยปกติอายุในการไถ่ถอนของตั๋วเงินคลังที่รัฐบาลนิยมออกคือ 1,3,6
และ 9 เดือน
4. สถาบันการเงินในตลาดการเงิน
4.1สถาบันที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางหรือนายหน้าในการนำผู้ที่มีเงินออมคือผู้ต้องการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินมาพบกับผู้ที่ต้องการเงินโดยการขายสินทรัพย์ทางการเงิน
เพื่อตกลงซื้อขายกัน
4.2สถาบันที่ทำหน้าที่เป็นผู้ค้าสินทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญได้แก่ธนาคารพาณิชย์
ธนาคารกลางและบริษัทเงินทุน
4.3สถาบันที่ทำหน้าที่ประกันการขายจะเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายสินทรัพย์ทางการเงินที่ออกใหม่
4.4สถาบันที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้บริการด้านการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน
4.5 สถาบันที่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย
ระเบียบ ตลอดจนกำกับดูแลให้สถาบันกลุ่มอื่นๆ
โครงสร้างตลาดการเงิน
การแบ่งประเภทของตลาดการเงินทําได้หลายวิธี
วิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยม คือ การแบ่งตามอายุของสินทรัพย์ทางการเงิน โดยแบ่งออกเป็น
ตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
• ตลาดเงิน (Money Market) เป็นตลาดที่มีการซื้อขายตราสารทางการเงินที่มีอายุไม่เกิน
1 ปี เช่น ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน บัตรเงินฝาก ตั๋วเงินคลัง เป็นต้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนไปใช้ ในระยะสั้นหรือเพื่อการหมุนเวียนภายในกิจการ
• ตลาดทุน(Capital Market) เป็นตลาดที่มีการซื้อขายตราสารทางการเงินที่มีอายุมากกว่า
1 ปีขึ้นไป เช่น หุ้นสามัญ
หุ้นกู้พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น
เพื่อนําเงินทุนที่ได้ไปใช้ในการลงทุนโครงการระยะยาวต่าง ๆ
ตลาดทุนแบ่งออกได้เป็นตลาดแรกและตลาดรอง
- ตลาดแรก (Primary Market) เป็นตลาดที่สินทรัพย์ทางการเงินถูกซื้อขายครั้งแรก รหว่าง DSU กับ SSU โดย DSU เป็นผู้ออกหลักทรัพย์มาขายเพื่อนําเงินที่ได้ไปลงทุนในโครงการ ลงทุนต่าง ๆ
- ตลาดรอง (Secondary Market) เป็นตลาดที่สินทรัพย์ทางการเงินที่ SSU ถือครองอยู่แต่ ต้องการขาย ด้วยเหตุผลที่ต้องการได้รับเงินทุน
หรือต้องการขายเพื่อทํา กําไร จึงต้องหา SSU รายอื่นที่ต้องการลงทุน
หรือ ซื้อสินทรัพย์ ทางการเงินนั้นแทน
-ตลาดรองยังสามารถแบ่งออกเป็น ตลาดที่เป็นทางการ (Organized Market)
คือ ตลาดที่มี การจัดตั้งอย่างเป็นระบบ
มีข้อบังคับกฎเกณฑ์ในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน
หรือหลักทรัพย์ทางการเงินอย่างชัดเจน
กิจการวาณิชธนกิจ
หมายถึง
กิจการที่มีความเชี่ยวชาญทางการเงินที่เป็นตัวกลางในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์
หน้าที่ของกิจการวาณิชธนกิจ
รับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriting)
ทำหน้าที่ในการนำหลักทรัพย์ของบริษัทที่จัดหาเงินทุนออกจำหน่าย
โดยกิจการวาณิชธนกิจจะรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ในกรณีไม่สามารถจำหน่ายหลักทรัพย์ได้หมดหรือจำหน่ายได้ในราคาที่ต่ำกว่า
กำหนดการจัดจำหน่าย
(Distributing)
นำหลักทรัพย์ออกจำหน่ายแก่นักลงทุนทั่วไป
ซึ่งอาจจะจำหน่ายผ่านสาขาของกิจการวาณิชธนกิจหรือผ่านตัวแทนจำหน่าย
การให้คำปรึกษา (Advising)
ให้คำปรึกษาทางการเงินของกิจการไม่ว่าในด้านการลงทุน การซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงการให้ข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้นด้วย
การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
คือ การที่ผู้จำหน่าย (underwriter) รับหลักทรัพย์ที่ออกใหม่จากบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์
(issuer) แล้วนำมาขายให้แก่ประชาชนทั่วไปหรืออาจกล่าวสั้นๆ
ว่าเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในตลาดแรก (primary market) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ผุ้ประกอบการจะต้องมีใบอนุญาตจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
โดยทั่วไปแล้ว การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ
(1)
การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีการรับประกันผลการจำหน่าย (firm commitment underwriting)
(2) ไม่มีการรับประกันผลการจำหน่าย
ขายได้เต็มที่เท่าไรก็เท่านั้น (best effort)
วิธีการจำหน่ายหลักทรัพย์ (Distribution Methods)
1. วิธีการเจรจาต่อรอง (negotiated purchase)
บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์เจรจาต่อรองโดยตรงกับกิจการวาณิชธนกิจ เกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ
2. วิธีการประมูลราคาหลักทรัพย์ (competitive bid purchase)
กิจการวาณิชธนกิจหลายๆกลุ่มเข้าแข่งขันประมูลราคาหลักทรัพย์
3. วิธีการจำหน่ายหลักทรัพย์แบบพยายามที่สุด (best efforts basis)
กิจการวาณิชธนกิจจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายเท่านั้นจะไม่ รับประกันการจำหน่าย 4. วิธีการจำหน่ายหลักทรัพย์แบบ privileged subscription
กิจการวาณิชธนกิจจำหน่ายหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุนเฉพาะกลุ่ม
เช่น
ผู้ถือหุ้นปัจจุบัน พนักงานบริษัท
หรือลูกค้าของบริษัท
5. วิธีการขายตรง (direct sale)
เป็นวิธีที่จำหน่ายหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุนเฉพาะกลุ่มเช่นเดียวกันแบบ privileged subscription
แต่จะต่างกันตรงวิธีขายตรงจะขายให้แก่นักลงทุนโดยตรงโดยไม่ผ่านกิจการวาณิชธนกิจ
แบบฝึกหัด
1.ตลาดเงินและตลาดทุนมีความแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตลาดเงิน(Money Market) ซื้อขายหลักทรัพย์อายุครบกำหนดไม่เกิน
1 ปี หรือ จัดหาเงินทุนในระยะสั้น
ตลาดทุน(Capital Market) อายุมากกว่า
1 ปี หรือ จัดหาเงินทุนระยะยาว
2. สินทรัพย์ทางการเงินที่ออกโดยภาครัฐ มีอะไรบ้าง อธิบาย
1
พันธบัตรรัฐบาล คือ เป็นตราสารที่รัฐบาลออกเพื่อกู้ยืมในตลาดการเงิน
โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ประกันการจำหน่ายแต่ผู้เดียว
2
พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ คือ
เป็นตราสารที่รัฐวิสาหกิจออกมาระดมทุนในประเทศแทนการกู้เงินจากต่างประเทศมีทั้งที่รัฐบาลค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน
อายุตั้งแต่ 3-10 ปี
3
ตั๋วเงินคลัง คือ สินทรัพย์ทางการเงินที่มีอายุในการไถ่ถอนน้อยกว่า 1 ปี
โดยปกติอายุในการไถ่ถอนของตั๋วเงินคลังที่รัฐบาลนิยมออกคือ 1,3,6 และ 9 เดือน
3.ตลาดทุนแบ่งออกเป็นกี่ตลาดอะไรบ้าง
ตลาดทุนแบ่งออกเป็น
2 ตลาด คือ
ตลาดแรกและตลาดรอง
4. การจำหน่ายหลักทรัพย์แบ่งออกเป็นกี่รูปแบบอะไรบ้าง
การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์แบ่งได้เป็น
2 รูปแบบ คือ
1 การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีการรับประกันผลการจำหน่าย
2 ไม่มีการรับประกันผลการจำหน่าย
ขายได้เต็มที่เท่าไรก็เท่านั้น
5. วิธีการจำหน่ายหลักทรัพย์มีกี่วิธี อะไรบ้าง
มี 5 วิธี ดังนี้
1. วิธีการเจรจาต่อรอง
2. วิธีการประมูลราคาหลักทรัพย์
3. วิธีการจำหน่ายหลักทรัพย์แบบพยายามที่สุด
4. วิธีการจำหน่ายหลักทรัพย์แบบ
5. วิธีการขายตรง
Top 10 YouTube videos - Videoslots
ตอบลบThe #1 source for YouTube videos on Vimeo, the world's largest community for free. Play your favorite videoslots on Vimeo. I'm going youtube mp3 to go ahead and tell you a great thing about